ตลาดรถมือสองในไทยคึกคักมาก เพราะราคาถูกกว่ารถป้ายแดงเกือบครึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนกังวลคือเรื่องการ “กู้เงิน” หรือการขอ “สินเชื่อรถมือ 2” ว่ามันมีความแตกต่างจากรถใหม่อย่างไร? ดอกเบี้ยแพงกว่าจริงไหม? และเรื่อง “VAT 7%” ที่เขาว่าต้องจ่ายเพิ่ม มันคืออะไรกันแน่? บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดไฟแนนซ์รถมือสอง ให้คุณเตรียมตัวได้เป๊ะ กู้ผ่านง่าย และไม่ตกม้าตายตอนผ่อนครับ
สินเชื่อรถมือ 2 คืออะไร? กู้ยังไงให้คุ้ม ดอกเบี้ย-VAT คิดยังไง สรุปครบที่เดียว
“สินเชื่อรถมือ 2” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “จัดไฟแนนซ์รถมือสอง” คือ บริการสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) ที่สถาบันการเงินปล่อยกู้ให้เราเพื่อนำเงินไปซื้อรถยนต์ใช้แล้ว จากเต็นท์รถหรือเจ้าของรถโดยตรง แม้หลักการจะคล้ายกับการซื้อรถป้ายแดง คือ “ไฟแนนซ์จ่ายเงินให้คนขาย แล้วเราผ่อนคืนไฟแนนซ์” แต่ในรายละเอียดลึกๆ มี 3 ข้อแตกต่างสำคัญ ที่คุณต้องรู้ก่อนเซ็นสัญญาครับ
3 ข้อแตกต่างสำคัญ: สินเชื่อรถมือ 2 vs รถป้ายแดง
ถ้าคุณเอาความรู้ตอนซื้อรถป้ายแดงมาใช้กับรถมือสอง อาจคำนวณเงินพลาดได้ครับ เพราะมีจุดที่ต่างกันดังนี้:
1. ดอกเบี้ย “สูงกว่า”:
-
ดอกเบี้ยรถมือสองจะสูงกว่ารถป้ายแดงเสมอ เนื่องจากไฟแนนซ์มองว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า และรถมีการเสื่อมสภาพ
-
ยิ่งรถ “ปีลึก” (รถเก่า) ดอกเบี้ยก็จะยิ่งแพงขึ้น
2. ยอดจัดไฟแนนซ์ (อิงราคากลาง):
-
รถป้ายแดง ยอดจัดจะอิงตามราคาขายหน้าโชว์รูม
-
รถมือสอง ยอดจัดจะอิงตาม “ราคากลาง” (Red Book) ที่สถาบันการเงินกำหนด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาที่เต็นท์ตั้งขาย
-
ตัวอย่าง: เต็นท์ขาย 500,000 บาท แต่ราคากลางไฟแนนซ์ประเมินให้แค่ 450,000 บาท คุณต้องหาเงินส่วนต่าง (เงินดาวน์) มาจ่ายเพิ่มเอง 50,000 บาท
3. ต้องจ่าย VAT 7% “ทุกงวด”: (เรื่องนี้สำคัญมาก!)
-
รถป้ายแดง: ราคาผ่อนรวม VAT ไปแล้ว
-
รถมือสอง: ค่างวดที่คำนวณออกมา ยังไม่รวม VAT 7% คุณต้องบวกเพิ่มเข้าไปด้วย
-
ตัวอย่าง: คำนวณค่างวดได้ 10,000 บาท เวลาจ่ายจริงต้องจ่าย 10,700 บาท (10,000 + 700) ไปตลอดอายุสัญญา
ดอกเบี้ยสินเชื่อรถมือ 2 คิดยังไง?
สินเชื่อรถมือสอง ใช้ระบบ “ดอกเบี้ยคงที่” (Flat Rate) เหมือนรถใหม่ครับ คือคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นทั้งก้อนตั้งแต่วันแรก แล้วหารเฉลี่ยออกมา
ปัจจัยที่ทำให้ดอกเบี้ย ถูก หรือ แพง:
-
อายุรถ: รถปีใหม่ (เช่น ไม่เกิน 5 ปี) ดอกเบี้ยถูกกว่ารถปีเก่า
-
ประเภทรถ: รถเก๋ง/กระบะ 4 ประตู ดอกเบี้ยมักจะถูกกว่า รถกระบะตอนเดียวหรือรถบรรทุก
-
ระยะเวลาผ่อน: ผ่อนสั้น (48 งวด) ดอกเบี้ยถูกกว่า ผ่อนยาว (72-84 งวด)
ตัวอย่างอัตราดอกเบี้ย (โดยประมาณ):
-
รถปี 2020-2023: ดอกเบี้ยประมาณ 3.50% – 5.00% ต่อปี
-
รถปี 2015-2019: ดอกเบี้ยประมาณ 5.00% – 7.00% ต่อปี
-
รถเก่ากว่าปี 2015: ดอกเบี้ยอาจสูงถึง 8.00% – 10.00% ต่อปี
ขั้นตอนการขอสินเชื่อรถมือ 2 (ทั้งซื้อเต็นท์ และ ซื้อรถบ้าน)
ปัจจุบันการจัดไฟแนนซ์รถมือสองทำได้ 2 รูปแบบหลักๆ ครับ
1. ซื้อจาก “เต็นท์รถ” (Dealer)
-
ความง่าย: เต็นท์รถมักจะมีเจ้าหน้าที่การตลาดของไฟแนนซ์ (Marketing) สแตนด์บายรอให้บริการอยู่แล้ว หรือเต็นท์จะดีลให้เสร็จสรรพ
-
หน้าที่เรา: เตรียมเอกสาร และเตรียมเงินดาวน์ (ถ้ากู้ไม่เต็มราคารถ)
2. ซื้อจาก “เจ้าของรถโดยตรง” (รถบ้าน)
-
ความง่าย: คุณและผู้ขายต้องนัดกันไปติดต่อไฟแนนซ์เอง หรือใช้บริการสินเชื่อ “รถบ้าน” ที่ธนาคารมีให้บริการ
-
ขั้นตอน:
ผู้ซื้อ-ผู้ขาย ตกลงราคากัน
ติดต่อไฟแนนซ์เพื่อนัดดูรถและประเมินสภาพ
เมื่ออนุมัติ ผู้ขายต้องโอนเล่มทะเบียนให้ไฟแนนซ์
ไฟแนนซ์โอนเงินค่ารถให้ผู้ขาย (หลังจากหักเงินดาวน์ที่ผู้ซื้อควรจ่ายให้ผู้ขายไปแล้ว)
เตรียมเอกสารยังไงให้ “กู้ผ่าน”
เอกสารสำหรับรถมือสอง ไม่ต่างจากสินเชื่อทั่วไปครับ แต่เน้นเรื่อง “ที่มาของรายได้”
1. บัตรประชาชน + ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงและสำเนา)
2. เอกสารแสดงรายได้:
-
พนักงานประจำ: สลิปเงินเดือนล่าสุด, หนังสือรับรองเงินเดือน, Statement ย้อนหลัง 3-6 เดือน
-
อาชีพอิสระ/ค้าขาย: ทะเบียนการค้า (ถ้ามี), รูปถ่ายหน้าร้าน/สต็อกของ, บิลซื้อขาย, Statement ย้อนหลัง 6-12 เดือน (สำคัญมาก ต้องเดินบัญชีให้สวย)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับสินเชื่อรถมือ 2
Q1: “ฟรีดาวน์” รถมือสอง มีจริงไหม? A: มีจริงครับ แต่มีเงื่อนไข คือ “ราคาประเมินกลาง” ของไฟแนนซ์ ต้องสูงกว่า “ราคาขายจริง” ของรถคันนั้น และเครดิตผู้กู้ต้องดีมาก จนไฟแนนซ์ยอมปล่อยกู้เต็ม 100% ของราคาประเมิน (ถ้าเครดิตทั่วไป มักจะได้ประมาณ 80-90% ซึ่งแปลว่าต้องมีเงินดาวน์ครับ)
Q2: ติดเครดิตบูโร (แบล็กลิสต์) ซื้อรถมือสองได้ไหม? A: ทำได้ยากครับ แต่ “เป็นไปได้มากกว่ารถป้ายแดง” โดยคุณอาจต้องใช้เงินดาวน์สูงมาก (30-40%) และต้องมีคนค้ำประกันที่เครดิตดีมาช่วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละไฟแนนซ์ด้วยครับ
Q3: ซื้อรถมือสอง ต้องทำประกันภัยไหม? A: ไฟแนนซ์จะ “บังคับ” ให้ทำประกันภัยรถยนต์ครับ (อย่างน้อยในช่วงปีแรก) เพื่อคุ้มครองหลักทรัพย์ของเขา ส่วนใหญ่จะแนะนำเป็นชั้น 1 หรือ ชั้น 2+ ครับ
สินเชื่อรถมือ 2 เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนอยากมีรถในราคาประหยัด แต่ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญา อย่าลืมคำนวณ “ดอกเบี้ย” และ “VAT 7%” ที่ต้องจ่ายเพิ่มในแต่ละงวดให้ดี
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญคือ ควรเตรียมเงินก้อนไว้สำหรับ “เงินดาวน์” สัก 15-20% ของราคารถ จะช่วยให้ยอดจัดน้อยลง ผ่อนสบายขึ้น และมีโอกาสอนุมัติผ่านง่ายขึ้นมากครับ
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย