การมีรถยนต์ส่วนตัวเป็นความฝันของหลายคน ไม่ว่าจะเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบาย หรือเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การซื้อรถยนต์ใหม่มักต้องใช้เงินดาวน์จำนวนไม่น้อย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันมีธนาคารและสถาบันการเงินหลายแห่งที่เสนอสินเชื่อรถยนต์แบบ ไม่ต้องมีเงินดาวน์ หรือที่เรียกว่า กู้เต็ม 100% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการมีรถยนต์โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ upfront ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ไม่มีเงินดาวน์รถ สามารถขอ สินเชื่อรถ ธนาคารไหนดี พร้อมแนะนำธนาคารและสถาบันการเงินที่น่าสนใจ รวมถึงเคล็ดลับในการขอสินเชื่อให้ผ่านง่ายๆ
🔍 สินเชื่อรถยนต์แบบไม่มีเงินดาวน์คืออะไร?
สินเชื่อรถยนต์แบบไม่มีเงินดาวน์ คือ การที่ผู้ขอสินเชื่อสามารถกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อซื้อรถยนต์ได้เต็มจำนวน โดยไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์ upfront ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ได้โดยไม่ต้องมีเงินก้อนใหญ่ในตอนเริ่มต้น
อย่างไรก็ตาม การกู้เต็ม 100% มักมาพร้อมกับเงื่อนไขบางประการ เช่น:
- ดอกเบี้ยที่สูงกว่า การมีเงินดาวน์
- ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้น
- ความจำเป็นในการมีประวัติทางการเงินที่ดี
🏦 ไม่มีเงินดาวน์รถ สามารถขอ สินเชื่อรถ ธนาคารไหนดี
1. กรุงศรี ออโต้
- วงเงินกู้: สูงสุด 100% ของราคารถ
- ระยะเวลาผ่อน: สูงสุด 84 เดือน
- จุดเด่น: อนุมัติรวดเร็วภายใน 1-3 วันทำการ มีโปรแกรม “ผ่อนเบาสุด” สำหรับผู้ที่มีงบจำกัด
2. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
- วงเงินกู้: สูงสุด 100% สำหรับรถยนต์ใหม่
- ระยะเวลาผ่อน: สูงสุด 84 เดือน
- จุดเด่น: สมัครง่ายผ่านแอปพลิเคชัน SCB Easy ดอกเบี้ยแบบคงที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ย
3. ธนาคารกสิกรไทย
- วงเงินกู้: สูงสุด 100% สำหรับรถยนต์ใหม่
- ระยะเวลาผ่อน: สูงสุด 84 เดือน
- จุดเด่น: อัตราดอกเบี้ยที่ยืดหยุ่น เอกสารไม่ยุ่งยาก สามารถเช็กวงเงินอนุมัติเบื้องต้นผ่านเว็บไซต์
4. ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb)
- วงเงินกู้: สูงสุด 100% ของราคารถ
- ระยะเวลาผ่อน: สูงสุด 84 เดือน
- จุดเด่น: อนุมัติไวภายใน 30 นาที มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่
5. ธนาคารออมสิน
- วงเงินกู้: สูงสุด 100% ของราคารถ
- ระยะเวลาผ่อน: สูงสุด 84 เดือน
- จุดเด่น: ดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับกลุ่มมนุษย์เงินเดือน
ไม่มีเงินดาวน์ แต่มีรถในฝัน ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนขอสินเชื่อ?
แม้คุณจะไม่มีเงินดาวน์ แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะ “ธนาคารก็อยากปล่อยสินเชื่อให้คนที่มีความพร้อม” วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ เงินดาวน์
ดังนั้น สิ่งที่คุณควรทำมากที่สุดก่อนเดินเข้าโชว์รูมหรือธนาคารคือ เตรียมความพร้อมของตัวเองในด้านเหล่านี้:
✅ 1. รายได้มั่นคง แสดงได้ชัดเจน
ธนาคารต้องการความมั่นใจว่า “คุณจะสามารถ ผ่อนรถยนต์ เดือนละเท่าไหร่”
ถ้าคุณมีรายได้แน่นอน เช่น
- พนักงานประจำ (มีสลิปเงินเดือน)
- ฟรีแลนซ์ที่มีรายได้สม่ำเสมอ (มี statement ย้อนหลังชัดเจน)
- เจ้าของกิจการที่มีเอกสารรายรับรายจ่ายถูกต้อง
คุณมีสิทธิ์ได้สินเชื่อโดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ มากกว่าคนที่ไม่มีเอกสารอะไรเลย
✅ 2. เครดิตดี = กู้ได้ง่าย
ถ้าคุณเคยผ่อนของ หรือมีบัตรเครดิตที่จ่ายตรงเสมอ
→ โอกาสอนุมัติสินเชื่อจะง่ายขึ้นมาก
แต่ถ้าเคยค้างชำระ หรือมีประวัติเสียในเครดิตบูโร
→ ธนาคารอาจ “ให้กู้ได้น้อย” หรือ “ต้องมีคนค้ำ”
📌 แนะนำ: ตรวจเครดิตบูโรของตัวเองได้ผ่านแอป MyCredit หรือของธนาคารก่อนยื่นจริง
✅ 3. เลือกรถที่เหมาะกับรายได้
คุณอาจอยากได้ Toyota Fortuner หรือรถ SUV คันใหญ่
แต่ถ้ารายได้ยังไม่มั่นคงพอ หรือเพิ่งเริ่มงานใหม่
การเลือก “รถขนาดเล็ก ราคากลาง” อย่าง Toyota Yaris, Honda City, หรือ Mitsubishi Attrage
จะทำให้คุณ “กู้ผ่านง่ายกว่าเยอะ” และธนาคารพร้อมปล่อยกู้เต็มจำนวนมากกว่า
📉 ถ้าไม่มีเงินดาวน์ แล้วดอกเบี้ยจะสูงแค่ไหน?
คำถามยอดฮิตที่หลายคนอยากรู้คือ
“ไม่มีเงินดาวน์ ดอกเบี้ยจะสูงกว่าเดิมเท่าไหร่?”
คำตอบคือ… ใช่ครับ ดอกเบี้ยมักจะสูงกว่าแบบมีเงินดาวน์แน่นอน
ธนาคารถือว่าคุณ “กู้เต็มจำนวน = ความเสี่ยงมากขึ้น”
จึงมักจะคิดดอกเบี้ยสูงกว่าคนที่วางเงินดาวน์ 20%-25%
รูปแบบ | ดอกเบี้ยต่อปีโดยประมาณ |
มีเงินดาวน์ 25% | 2.49% – 3.29% ต่อปี |
ไม่มีเงินดาวน์ | 3.99% – 6.50% ต่อปี |
📌 แต่อย่าตกใจ! หากคุณเครดิตดี หรือมีสลิปเงินเดือนสูง
ธนาคารบางแห่งยังคงเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษแม้คุณจะไม่มีเงินดาวน์เลยก็ได้
📍 กลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลจริง! ขอสินเชื่อแบบไม่มีเงินดาวน์ให้ผ่านชัวร์
ถ้าคุณยังไม่มีเงินก้อน แต่อยากได้รถเพื่อใช้งาน จำเป็นต้องวางแผนให้ดี!
นี่คือ เทคนิคจากคนที่ขอสินเชื่อผ่านจริง:
🎯 1. ขอสินเชื่อร่วมกับคนในครอบครัว
หากคุณมีรายได้ไม่เยอะพอ → ลองขอสินเชื่อร่วมกับพ่อแม่หรือพี่น้อง
ธนาคารจะมอง “ความมั่นคงรวม” และมีโอกาสอนุมัติวงเงินมากขึ้น
🎯 2. ใช้รถที่มีอยู่เป็นหลักประกัน
ถ้าคุณมี “รถคันเก่า” อยู่ในชื่อคุณ
สามารถใช้วิธี Refinance / Trade-in / จำนำทะเบียนรถยนต์ เพื่อใช้เป็นเงินดาวน์
หรือบางกรณี ใช้เป็นหลักประกันในการขอรถใหม่แบบไม่ต้องวางเงินสดเลย
🎯 3. ขอสินเชื่อจากโชว์รูมโดยตรง
โชว์รูมรถบางแห่งมี “ไฟแนนซ์ในเครือ” ที่สามารถช่วยให้คุณกู้ได้โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์
เช่น โตโยต้า ลีสซิ่ง, ฮอนด้า ลีสซิ่ง, มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ลีสซิ่ง ฯลฯ
เงื่อนไขยืดหยุ่นกว่าธนาคารเล็กน้อย และบางแห่งมีโปรโมชั่น “ออกรถ 0 บาทจริง”
📄 เอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอสินเชื่อรถยนต์แบบไม่มีเงินดาวน์
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ:
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สลิปเงินเดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองรายได้
- สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน
- เอกสารเกี่ยวกับรถยนต์ (ถ้ามี)
💡 เคล็ดลับในการขอสินเชื่อรถยนต์แบบไม่มีเงินดาวน์ให้ผ่านง่ายๆ
- ตรวจสอบประวัติเครดิตบูโร: หากมีประวัติการชำระหนี้ดี จะเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
- เลือกไฟแนนซ์ที่เหมาะกับรายได้: เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขจากหลายๆ แห่ง
- จัดการหนี้สินให้เรียบร้อย: หากมีหนี้สินที่ค้างชำระ ควรเคลียร์ให้หมดก่อนสมัครสินเชื่อใหม่
- เพิ่มผู้ค้ำประกัน: หากรายได้ยังไม่มากพอ การมีผู้ค้ำประกันที่มีเครดิตดีจะช่วยให้การอนุมัติเป็นไปได้ง่ายขึ้น
⚖️ เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของสินเชื่อรถยนต์แบบไม่มีเงินดาวน์
ข้อดี:
- ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ upfront
- ออกรถได้เร็วทันใจ
- เหมาะสำหรับคนที่มีรายได้ประจำและสามารถจัดการค่าใช้จ่ายรายเดือนได้
ข้อเสีย:
- ดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อที่มีเงินดาวน์
- ภาระการผ่อนต่อเดือนค่อนข้างหนัก
- อาจไม่ได้รับข้อเสนอดีที่สุดในตลาด
🧾 การวางแผนการเงินสำหรับสินเชื่อรถยนต์
แม้ว่าคุณจะไม่มีเงินดาวน์ คุณยังสามารถวางแผนการเงิน เพื่อให้การผ่อนรถเป็นเรื่องที่จัดการได้ง่ายขึ้น:
- ตั้งงบประมาณล่วงหน้า: วางแผนให้ค่างวดรถอยู่ในช่วง 20-30% ของรายได้ต่อเดือน
- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น: เพื่อลดภาระการเงินและจัดสรรเงินสำหรับค่างวด
สร้างเงินสำรองฉุกเฉิน: เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย