“ผ่อนรถมาตั้งนาน…แต่พอมีเรื่องต้องใช้เงินด่วน กลับรู้สึกว่ารถคันนี้ช่วยอะไรไม่ได้เลย เพราะยังเป็นหนี้อยู่” “อยากได้เงินก้อนมาหมุนทำธุรกิจ แต่รถก็ยังผ่อนไม่หมด ทำอะไรได้บ้าง?” เชื่อว่านี่คือความรู้สึกอึดอัดใจของใครหลายคนที่มีรถยนต์แต่ยังอยู่ในสถานะ “ผ่อนอยู่” ทำให้คิดไปว่าทรัพย์สินชิ้นนี้เป็นได้แค่ภาระและยังไม่สามารถนำมาสร้างประโยชน์อะไรได้ในยามฉุกเฉิน… แต่เดี๋ยวก่อน! ความคิดนั้น ไม่จริงเสมอไปครับ! วันนี้ เราจะมาไขความลับและแนะนำให้คุณรู้จักกับ “สินเชื่อรถ ผ่อนอยู่” ที่จะช่วยปลดล็อกเงินก้อนที่ซ่อนอยู่ในรถของคุณ แม้ว่าจะยังผ่อนไม่หมดก็ตาม กุญแจดอกนั้นมีชื่อว่า “การรีไฟแนนซ์รถยนต์” มาทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กัน แล้วคุณจะรู้ว่ารถที่ผ่อนอยู่…ก็ช่วยคุณได้มากกว่าที่คิด!
“สินเชื่อรถ ผ่อนอยู่” มีจริงหรือ? เฉลย: มันคือ “การรีไฟแนนซ์” นั่นเอง!
คำว่า “สินเชื่อรถผ่อนอยู่” ที่หลายคนค้นหากันนั้น ในทางปฏิบัติของสถาบันการเงินจะเรียกกระบวนการนี้ว่า “การรีไฟแนนซ์ (Refinance)” ครับ
เพื่อให้เห็นภาพง่ายที่สุด ลองนึกตามแบบนี้นะครับ…
“การรีไฟแนนซ์ ก็เหมือนกับการ ‘ย้ายบ้าน’ สัญญาเงินกู้ของคุณ จาก ‘เจ้าหนี้คนเดิม’ ไปหา ‘เจ้าหนี้คนใหม่’ ที่เสนอเงื่อนไขที่ดีกว่าให้คุณ โดยเจ้าหนี้คนใหม่ (ไฟแนนซ์แห่งใหม่) จะใจดีเอาเงินไปจ่ายปิดหนี้ทั้งหมดให้เจ้าหนี้คนเก่าก่อน จากนั้นคุณก็ย้ายมาเริ่มต้นผ่อนกับเจ้าหนี้คนใหม่ด้วยสัญญาฉบับใหม่แทน”
โดยเป้าหมายหลักๆ ของการรีไฟแนนซ์ที่คนนิยมทำกันมีอยู่ 2 อย่างคือ:
- เพื่อขอ “เงินส่วนต่าง” ไปใช้จ่าย (Popular!): นี่คือเป้าหมายหลักของคนส่วนใหญ่ที่ต้องการเงินก้อน
- เพื่อ “ลดค่างวด” ในแต่ละเดือน: สำหรับคนที่อยากลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนให้น้อยลง
ซึ่งในบทความนี้ เราจะเน้นไปที่เป้าหมายแรก คือการหาเงินก้อนจากรถที่ยังผ่อนอยู่กันครับ
หัวใจของ สินเชื่อรถ ผ่อนอยู่ : “เงินส่วนต่าง” คำนวณอย่างไร?
“เงินส่วนต่าง” หรือเงินสดที่คุณจะได้รับเข้ากระเป๋า คือส่วนที่สำคัญที่สุด หลายคนอาจจะยังงงว่ามันมาจากไหน เรามีสูตรง่ายๆ และตัวอย่างที่ชัดเจนมาให้ดูครับ
สูตรคำนวณ: เงินส่วนต่างที่คุณจะได้รับ = [ยอดสินเชื่อที่อนุมัติใหม่] - [ยอดหนี้เก่าที่ต้องไปปิด]
ดูตัวอย่างจริงกันเลย:
สมมติว่าคุณกำลังผ่อนรถยนต์ Toyota Vios อยู่…
- ขั้นตอนที่ 1: ประเมินราคากลางรถของคุณ
- วันนี้รถ Vios ของคุณมีราคาตลาดอยู่ที่ 400,000 บาท
- ขั้นตอนที่ 2: ไฟแนนซ์แห่งใหม่ประเมิน “ยอดจัดใหม่”
- คุณนำรถไปให้ “เงินให้ใจ” ประเมิน เราพิจารณาแล้วอนุมัติยอดสินเชื่อให้ 90% ของราคากลาง
- ยอดจัดใหม่ที่คุณได้คือ 400,000 x 90% = 360,000 บาท
- ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบ “ยอดหนี้คงเหลือ” กับที่เก่า
- คุณโทรเช็คกับไฟแนนซ์เดิม พบว่ายังเหลือหนี้ที่ต้องจ่ายอีก 200,000 บาท
- ขั้นตอนที่ 4: คำนวณหา “เงินส่วนต่าง”
- นำ [ยอดจัดใหม่] – [ยอดหนี้เก่า]
- 360,000 – 200,000 = 160,000 บาท
สรุปก็คือ: “เงินให้ใจ” จะนำเงิน 360,000 บาทที่อนุมัติให้คุณ ไปจ่ายปิดหนี้เก่า 200,000 บาท ส่วนต่างที่เหลืออีก 160,000 บาท ก็จะถูกโอนเข้าบัญชีของคุณโดยตรง เพื่อนำไปใช้จ่ายได้ตามต้องการ! เห็นไหมครับ ไม่ได้ซับซ้อนเลย
ใครบ้างที่เหมาะกับ สินเชื่อรถ ผ่อนอยู่ การรีไฟแนนซ์รถยนต์?
ลองเช็คดูสิว่าคุณเข้าข่ายข้อไหนบ้าง
- [ ] คนที่ผ่อนรถมาแล้วเกินครึ่งทาง: ยิ่งผ่อนมานาน ยอดหนี้เก่ายิ่งเหลือน้อย โอกาสที่จะได้เงินส่วนต่างก็ยิ่งสูงขึ้น
- [ ] เจ้าของรถรุ่นยอดนิยม: รถตลาดอย่าง Toyota, Isuzu, Honda มักมีราคาประเมินที่ดี ทำให้ได้ยอดจัดใหม่ที่สูง
- [ ] ผู้ที่ต้องการเงินก้อนฉุกเฉิน: เช่น ค่ารักษาพยาบาล, ค่าเทอมลูก, ค่าซ่อมบ้าน
- [ ] เจ้าของธุรกิจที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน: เพื่อนำไปสต็อกสินค้า หรือขยายกิจการ
- [ ] ผู้ที่เริ่มผ่อนค่างวดเดิมไม่ไหว: และอยากยืดระยะเวลาผ่อนเพื่อลดภาระในแต่ละเดือน
ข้อดี VS ข้อควรระวัง ของการรีไฟแนนซ์
การตัดสินใจทางการเงินทุกอย่างมีสองด้านเสมอ มาดูกันแบบโปร่งใสครับ
ข้อดีที่น่าสนใจ
- ได้เงินก้อนมาใช้: คือประโยชน์สูงสุดที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องได้ทันที
- อาจได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง: หากเงื่อนไขของไฟแนนซ์ใหม่ดีกว่าที่เก่า
- โอกาสลดค่างวด: สามารถเจรจายืดระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้น เพื่อให้ยอดผ่อนต่อเดือนสบายขึ้น
- ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก: ผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนใหญ่มีบริการอำนวยความสะดวกในการปิดบัญชีเก่าให้
ข้อควรระวังที่ต้องรู้
- ระยะเวลาผ่อนหนี้ยาวนานขึ้น: เพราะเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
- อาจมีค่าธรรมเนียม: เช่น ค่าปรับในการปิดบัญชีก่อนกำหนดกับไฟแนนซ์เดิม (ควรเช็คสัญญาก่อน) หรือค่าดำเนินการอื่นๆ ของที่ใหม่
- ดอกเบี้ยรวมอาจสูงขึ้น: หากคุณเลือกยืดระยะเวลาผ่อนนานเกินไป แม้ค่างวดจะถูกลง แต่เมื่อรวมดอกเบี้ยตลอดสัญญาก็อาจจะจ่ายแพงขึ้นได้
ทำไมต้องปรึกษาเรื่องรีไฟแนนซ์กับ “เงินให้ใจ”?
การรีไฟแนนซ์มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องใส่ใจ ที่ เงินให้ใจ (Ngernhaijai) เราไม่ได้มองแค่การอนุมัติสินเชื่อ แต่เรามองตัวเองเป็น “ที่ปรึกษา” ของคุณ
- เราช่วยคำนวณให้เห็นภาพ: เราจะช่วยคุณคำนวณเงินส่วนต่าง และเปรียบเทียบค่างวดใหม่กับเก่าให้เห็นชัดๆ ว่า “คุ้มค่า” ที่จะทำหรือไม่
- เราโปร่งใสทุกขั้นตอน: เราจะแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้คุณทราบก่อนตัดสินใจเสมอ
- เราเข้าใจความต้องการของคุณ: เราพร้อมรับฟังและให้คำแนะนำที่ดีที่สุด เพื่อให้การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้แก้ปัญหาให้คุณได้จริงและไม่สร้างภาระในระยะยาว
- อย่าปล่อยให้คำว่า “ยังผ่อนไม่หมด” มาปิดกั้นโอกาสทางการเงินของคุณ รถที่คุณกำลังผ่อนอยู่ มีมูลค่าซ่อนอยู่มากกว่าที่คุณคิด แค่ต้องรู้วิธีที่จะปลดล็อกมันออกมา
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย