การซื้อรถมือสองเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของรถยนต์ โดยไม่ต้องใช้เงินมากเท่าซื้อรถคันใหม่ จริงอยู่ว่าหลาย ๆ คนมักหาสินเชื่อรถมือสอง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย เป็นเงินสดก้อนใหญ่ ๆ ในทีเดียว แต่ก่อนที่คุณจะขอสินเชื่อรถมือสองได้ ต้องรู้เงื่อนไขและข้อกำหนดต่าง ๆ ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนดไว้ รวมถึงดอกเบี้ยต่าง ๆ ดังนั้น บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงเงื่อนไขทั่วไป ในการขอ สินเชื่อรถ มือสอง  ได้อย่างง่าย

เงื่อนไขทั่วไปในการขอสินเชื่อรถมือสอง

หากคุณตัดสินใจที่จะขอ สินเชื่อรถ มือสอง แล้ว สิ่งแรกที่คุณควรรู้ คือเงื่อนไขทั่วไปที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินจะพิจารณาก่อนอนุมัติสินเชื่อให้คุณ ซึ่งเงื่อนไขหลัก ๆ ที่คุณควรทราบมีดังนี้

อายุรถยนต์ : ธนาคารส่วนใหญ่จะกำหนดอายุของรถ ที่สามารถขอสินเชื่อได้ โดยทั่วไปแล้ว รถที่อายุไม่เกิน 10 ปีมักจะมีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อสูงกว่า แต่บางสถาบันการเงินอาจมีความยืดหยุ่น ในเรื่องนี้มากกว่า ขึ้นอยู่กับสภาพของรถ และความต้องการในตลาด

วงเงินสินเชื่อ : วงเงินสินเชื่อที่คุณจะได้รับจะขึ้นอยู่กับการประเมินราคาของรถ โดยทั่วไปแล้ว คุณจะได้รับวงเงินประมาณ 80 – 90% ของมูลค่ารถ ซึ่งอาจหมายความว่าคุณต้องเตรียมเงินดาวน์เพื่อเติมเต็มส่วนที่เหลือ

ดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อรถมือสองมักจะสูงกว่าสินเชื่อรถใหม่ เพราะรถที่ใช้แล้วมีความเสี่ยงมากกว่า สินเชื่อ รถยนต์ ดอกเบี้ย ถูก นี้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงิน ดังนั้น ควรตรวจสอบและเปรียบเทียบให้ดีก่อนตัดสินใจ

เวลาผ่อนชำระ : ระยะเวลาการผ่อนชำระสินเชื่อรถมือสองมักจะอยู่ระหว่าง 12 ถึง 60 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุของรถและความสามารถในการผ่อนของคุณ หากเลือกผ่อนนานขึ้น อาจทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง แต่ก็อาจทำให้คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมมากขึ้นด้วย

เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ 

การขอสินเชื่อรถ มือสอง ต้องมีการเตรียมเอกสารหลายอย่าง เพื่อยืนยันตัวตน และสถานะทางการเงินของผู้กู้ เอกสารที่จำเป็นมี โดยคุณจะต้องเตรียมบัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองรายได้, สมุดบัญชีธนาคารย้อนหลัง, ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์, และเอกสารอื่น ๆ ที่อาจถูกขอเพิ่มเติมจากสถาบันการเงิน สรุปคือ เตรียมเอกสารส่วนตัวและการเงินให้ครบถ้วนเพื่อตรวจสอบความพร้อมก่อนขอสินเชื่อ

วิธีเลือกที่เหมาะสม

การเลือก สินเชื่อรถ มือสอง ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถจัดการการเงิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำแนะนำในการเลือกสินเชื่อที่เหมาะสม คือ ก่อนเลือกสินเชื่อ ควรเปรียบเทียบดอกเบี้ยจากหลาย ๆ ที่, ตรวจสอบเงื่อนไขการผ่อนว่าตรงกับ ความสามารถในการจ่ายหรือไม่, และอย่าลืมถามเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ที่อาจเกิดขึ้นได้ จากแต่ละสถาบันการเงิน

ขั้นตอนในการขอ สินเชื่อรถ มือสอง

1. เลือกรถที่ต้องการซื้อ

ขั้นตอนแรก คือ การเลือกรถมือสอง ที่คุณต้องการ โดยคุณสามารถเลือก จากดีลเลอร์ หรือ จากเจ้าของรถ โดยตรง เช่น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า รถกระบะ อยู่ในสภาพดี และ ได้รับการตรวจเช็กจากช่างมืออาชีพ ก่อนทำการซื้อ

2. ติดต่อธนาคาร หรือ สถาบันการเงิน

หลังจาก ที่เลือกรถได้แล้ว คุณสามารถติดต่อธนาคาร หรือ สถาบันการเงิน เพื่อขอสินเชื่อ โดยนำเอกสาร ที่จำเป็นไป ยื่นให้ครบถ้วน เจ้าหน้าที่ จะทำการตรวจสอบข้อมูล และ พิจารณาวงเงิน ที่คุณจะได้รับอนุมัติ

3. การอนุมัติสินเชื่อ

หลังจาก ที่ธนาคารพิจารณาแล้วว่า คุณมีคุณสมบัติตรง ตามเกณฑ์ ที่กำหนด และ ประวัติเครดิตของคุณดี สถาบันการเงิน จะทำการอนุมัติสินเชื่อ โดยจะมีการแจ้งวงเงิน และ อัตราดอกเบี้ย ที่คุณต้องผ่อนชำระ

4. การทำสัญญา

เมื่อคุณได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว จะต้องเซ็นสัญญา กับธนาคาร และ ชำระเงินดาวน์ตาม ที่ตกลง จากนั้นก็สามารถรับรถ และ เริ่มผ่อนชำระ ตามเงื่อนไขที่กำหนด

เปรียบเทียบดอกเบี้ยรถมือสองของแต่ละธนาคาร

ดอกเบี้ยรถมือสองของแต่ละธนาคารอาจต่างกันไป โดยมีเพดานอัตราดอกเบี้ยสูงสุดตามกฎหมายอยู่ที่ 15% ต่อปี (ข้อมูลปี 2566) มาดูกันว่าธนาคารต่าง ๆ มีข้อเสนออย่างไรบ้าง

ธนาคารทิสโก้ (TISCO): สินเชื่อรถ ทิสโก้ ซื้อรถมือสอง ให้วงเงินสูงสุด 95% ของราคาประเมิน ผ่อนชำระได้สูงสุด 72 งวด ดอกเบี้ยจริงอยู่ระหว่าง 9.24% – 14.84% ต่อปี

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB): สินเชื่อรถยนต์มือสอง วงเงินสูงสุด 90% ของราคาประเมิน ผ่อนสูงสุด 84 งวด ดอกเบี้ยจริงอยู่ที่ 7.51% – 14.84% ต่อปี

ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP): สินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอง ให้วงเงินสูงถึง 110% ของราคาประเมิน ผ่อนสูงสุด 84 งวด ดอกเบี้ยจริงอยู่ที่ 7.46% – 15.00% ต่อปี

ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB): สินเชื่อรถยนต์มือสอง วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมิน ผ่อนได้สูงสุด 84 งวด ดอกเบี้ยจริงอยู่ที่ 7.48% – 15.00% ต่อปี

ธนาคารกรุงศรี (Krungsri): สินเชื่อยูสด์ คาร์ วงเงินสูงสุด 80% ของราคาประเมิน ผ่อนสูงสุด 84 งวด ดอกเบี้ยจริงอยู่ที่ 5.31% – 15.00% ต่อปี

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK): สินเชื่อรถมือสอง วงเงินสูงสุด 90% ของราคาประเมิน ผ่อนชำระได้สูงสุด 84 งวด ดอกเบี้ยจริงอยู่ที่ 7.29% – 15.00% ต่อปี

การเลือกสินเชื่อควรพิจารณาทั้งอัตราดอกเบี้ย วงเงินอนุมัติ และระยะเวลาผ่อนชำระให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการจ่ายของตัวเอง.

ดอกเบี้ย สินเชื่อรถ มือสอง ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?

ประเภทและอายุของรถ: ประเภทและอายุของรถเป็นปัจจัยหลักที่ใช้กำหนดอัตราดอกเบี้ย โดยรถที่เป็นที่นิยมและมีความต้องการสูงในตลาดมักจะได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่ารถประเภทอื่น ๆ อายุรถก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะรถที่เก่ากว่าจะมีมูลค่าลดลงตามการใช้งาน ทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น และบางสถาบันการเงินอาจจำกัดอายุรถ เช่น ไม่เกิน 10 ปี หรือ 15 ปี ในการอนุมัติสินเชื่อ

วงเงินที่ให้กู้: วงเงินที่สถาบันการเงินอนุมัติให้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งประเภท อายุ สภาพของรถ รวมถึงรายได้และภาระหนี้ของผู้กู้ ควรเลือกวงเงินที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนจ่ายของตัวเอง โดยปกติแล้ววงเงินกู้สำหรับรถมือสองจะอยู่ที่ประมาณ 75% ของราคาประเมิน ยิ่งรถใหม่ก็ยิ่งได้วงเงินสูงกว่าและดอกเบี้ยต่ำกว่า

ระยะเวลาการกู้: ระยะเวลาการผ่อนชำระสินเชื่อจะมีผลต่อยอดที่ต้องผ่อนต่อเดือน แม้ว่าการผ่อนนานจะทำให้ยอดรายเดือนลดลง แต่จะทำให้ดอกเบี้ยที่จ่ายรวมสูงขึ้น ดังนั้น ควรเลือกผ่อนในระยะเวลาที่สั้นที่สุดที่จ่ายไหว เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยรวมสูงเกินไป

ขอ สินเชื่อรถ มือสอง

การขอ สินเชื่อรถยนต์มือสอง เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับคนที่ต้องการรถแต่ไม่อยากจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว เงื่อนไขก็ไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ควรทำความเข้าใจ และเตรียมเอกสารให้พร้อม รวมถึงตรวจสอบเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อน นอกจากนี้ การเปรียบเทียบดอกเบี้ยและเงื่อนไขจากหลาย ๆ สถาบันจะช่วยให้คุณได้สินเชื่อที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการซื้อรถมือสอง

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย